อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอสันป่าตอง
อำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน
มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า "ดอยหลวง" ซึ่งหมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่
ส่วนที่เรียกว่า "ดอยอ่างกา" มีตำนานเล่าว่า ห่างจากดอยอินทนนท์ลงไปทางทิศตะวันตกประมาณ 300 ม.
มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ แต่ก่อนนี้มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่าอ่างกา
ต่อมาจึงรวมเรียกว่า "ดอยอ่างกา"
ดอยอินทนนท์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย
ซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน หม่า และ มาสิ้นสุดที่ประเทศไทย
โดยจัดให้เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศด้วยความสูง 2,565 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลางเท่านั้น
แต่สภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย และ อากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวันและบางครั้งน้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย
สภาพป่าเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำปิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกต่างๆ โดยเฉพาะน้ำตกแม่ยะ ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของประเทศ
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ :
1. เส้นทางสายอ่างกา
เป้นเส้นทางที่มีความสำคัญมีเอกลักษณ์เฉพาะ ระยะทาง 360 เมตร ใช้เวลาเดินศึกษา ธรรมชาติประมาณ 15 - 20 นาที เป็นลักษณะของป่าดิบเขาระดับสูง มีพรรณไม้เขตอบอุ่น ผสมกับเขตร้อน ที่พบเฉพาะในระดับสูง เป็นแบบป่าโบราณ มีพืชที่อาศัยเกาะติดต้นไม้มากมาย ตามพื้น จะพบพวกข้าวตอกฤๅษีเป็นบริเวณกว้าง ในหน้าหนาวจะพบกุหลาบพันปี สีแดงสวย และได้ยินเสียงนกร้อง อยู่เป็นระยะๆ มีความชุ่มชื้น และเป็นต้นกำเนิด ของสายน้ำแม่ปิง มีความหลากหลาย ทางชีวภาพและ อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
2. เส้นทางสายยอดดอย - น้ำตกสิริภูมิ
เป็นทางเดินระยะไกลประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชม. เหมาะสำหรับศึกษา เรื่องความแตกต่างของพันธุ์ไม้ ในระดับความสูงที่แตกต่างกัน ความหลากหลายของสังคมพืช การทดแทนของพันธุ์ไม้ ที่ถูกทำลาย การฟื้นฟูสภาพป่า การส่งเสริมอาชีพชาวเขา และทิวทัศน์ของหุบเขาด้านล่าง
3. เส้นทางสายกิ่วแม่ปาน
เป็นทางเดินป่าระยะสั้น ประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม. เหมาะสำหรับเรื่องการศึกษาป่าดิบเขา ในระดับต่ำลงมา สังคมทุ่งหญ้าที่เกิดขึ้นภายหลัง การทำลายสภาพป่าเดิม ลักษณะพืชเด่น ตามเส้นทางเดิน ทิวทัศน์ของ หน้าผาที่สวยงาม ตลอดจน ลักษณะการเกิดผลกระทบ ต่อเนื่องบริเวณรอยต่อ ระหว่างบริเวณรอยต่อ ระหว่างพื้นที่ป่าสมบูรณ์ กับพื้นที่ที่ถูกทำลาย หรือที่เรียกว่า EDGE EFFECT
อ่านรีวิว เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
4. เส้นทางสายน้ำตกแม่ปาน
เป็นทางระยะสั้นประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม. เหมาะสำหรับการศึกษาสภาพป่า ข้างลำธาร ความสำคัญของต้นน้ำ ชมน้ำตกตลอดการทาง
5. เส้นทางสายถ้ำบริจินดา
เป็นทางระยะสั้นใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม. เหมาะสำหรับการศึกษาในเรื่องกำเนิดถ้ำ สิ่งมีชีวิตในถ้ำ การเกิดหินงอกหินย้อย
6. เส้นทางสายสบหาด - บ้านแม่กลาง
ระยะทางประมาณ 900 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม. เหมาะกับการศึกษาในเรื่องของ สังคมป่าเต็งรังผสมสน และชมน้ำตกตาดน้อย
7. เส้นทางสายผาแว่น - น้ำตกวชิรธาร
ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม. เหมาะกับการศึกษาในเรื่องของ สังคมป่าผสมผลัดใบ ความร่มรื่น ชมทิวทัศน์ของน้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร และการทำเกษตรของชาวเขา
8. เส้นทางสาย กม.ที่ 38 - น้ำตกสิริภูมิ
เป็นเส้นทางเดินป่าระยะไกล ประมาณ 5.5 กิโลเมตร. ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชม. เหมาะสำหรับการดูนก ที่อาศัยอยู่ในป่าดิบเขาระดับ 1500 เมตร
9. เส้นทางสายปางสมเด็จ - ผาหมอน
เป็นระยะทางไกลประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชม. เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเดินป่า โดยเฉพาะ และต้องการศึกษาเส้นทาง สมัยที่ยังไม่มีถนน ตัดขึ้นดอยอินทนนท์
หมายเหตุ เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ในอุยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นี้ ต้องติดต่อขอคนนำทาง จากเจ้าหน้าที่อุทยาน ณ ที่ทำการเขต บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 31 ก่อน
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศทั่วไปประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงจาก ระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ยอดเขาที่มีระดับสูงรองลงมาคือ ดอยหัวมดหลวง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,330 เมตร ป่าอินทนนท์นี้เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำแม่กลาง แม่ป่าก่อ แม่ปอน แม่หอย แม่ยะ แม่แจ่ม แม่ขาน และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำแม่ปิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล
ลักษณะภูมิอากาศ
เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงถึง 2,565 เมตร อากาศจึงหนาวเย็นตลอดปี ความชื้นสูงมาก โดยเฉพาะบนดอย ในฤดูหนาวอุณหภูมิจะต่ำกว่าศูนย์องศงเซลเซียสทุกปี ในฤดูร้อนก็ยังมีอากาศหนาวเย็นอยู่ ต้องสวมเสื้อกันหนาว
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
สภาพทั่วๆ ไปเป็นที่โล่ง สลับกับป่าไม้ เนื่องจากถูกชาวเขา เผ่าแม้ว และกระเหรี่ยง ถางป่าทำไร่ จะเห็นได้จากบริเวณสองข้างทาง ขึ้นยอดดอยอินทนนท์ เป็นภูเขาหัวโล้น เกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นทิวทัศน์ ที่แตกต่างจากอุทยานฯ อื่นๆ ป่าไม้ในเขตอุทยานฯ มีหลายชนิด ได้แก่ ป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเต็งรัง หรือป่าเบญจพรรณ มีพันธุ์ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจดังนี้คือ สัก ตะเคียน สนเขา เต็ง เหียง มะเกลือ แดง ประดู่ รกฟ้า มะค่า เก็ตแดง จำปีป่า ตะแบก เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีดอกไม้ป่าที่สวยงามหลายชนิด เช่น ฟ้ามุ่ย ช้างแดง รองเท้านารี และกุหลาบป่า สำหรับ มอส ข้าวตอกฤๅษี ออสมันด้า มีอยู่ทั่วไปในระดับสูง
สัตว์ป่า ในบริเวณอุทยานฯ มีจำนวนลดลงไปมาก เนื่องจากถูกชาวเขาเผ่าต่างๆ ล่าเป็นอาหาร และป่าซึ่งเป็น ที่อยู่อาศัยถูกถางลงมากมาย ทำให้สัตว์ใหญ่บางชนิดหมดไปจากป่านี้ ปัจจุบันมีสัตว์ที่หลงเหลืออยู่บ้าง ได้แก่ เลียงผา กวาง เสือ หมูป่า หมี ชะนี ชะมด กะต่ายป่า และไก่ป่า
จุดเด่นที่น่าสนใจ
ปัจจุบันทางทหารได้ตัดถนนขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ จึงสามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้สะดวก สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ก็อาจเลือกวิธีเดินเท้า ที่นิยมมักเริ่มต้นจากน้ำตกแม่กลาง คืนแรกพักที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงแม่แอบ คืนที่สองพักที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงผาหม่อน คืนที่สามพักที่ปางสมเด็จ แล้วขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ในระหว่างทางจะได้รับความเพลิดเพลินกับบรรยากาศป่าเขา และได้ศึกษา ความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยงไปด้วย
ยอดดอยอินทนนท์
ยอดดอยอินทนนท์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศ ซึ่งคนไทยส่วนมากต้องการไปสัมผัสเพื่อเป็นประวัติของชีวิต อากาศบนยอดดอยหนาวเย็น ยามฤดูหนาวอากาศหนาวจัด มีเมฆหมอกครึ้ม บรรยากาศดังกล่าวหาได้ยาก ในประเทศไทย ต้นไม้ในบริเวณยอดดอยแตกต่างจากที่อื่นเพราะมีสภาพเป็นป่าโบราณ ตามต้นไม้มีเฟิร์น หลายชนิดและมอสจับเขียวครึ้ม พันธุ์ไม้ดอกเช่น กุหลาบป่า คล้ายกับภูกระดึง แต่สูงใหญ่กว่ามาก จนเรียกกันว่า "กุหลาบพันปี" นอกจากนี้ ยังมี ลานข้าวตอกฤๅษี ซึ่งเป็นมอสชนิดหนึ่ง ขึ้นอยู่หนาแน่นมีสีเขียว สลับสีน้ำตาลอ่อนๆ มอสชนิดนี้จะขึ้นได้เฉพาะที่สูง ความชื้นมาก และอากาศหนาวเย็นเท่านั้น และเป็นที่ประดิษฐาน สถูปบรรจุอัฐิเจ้าอินทวิชยานนท์ อดีตเจ้าเมืองเชียงใหม่
โครงการเกษตรหลวงดอยอินทนนท์
ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 31 แยกขวาเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร ผลิตผลหลักคือไม้ดอกเมืองหนาว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมแปลงดอกไม้และการเพาะขยายพันธุ์
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 41.5 ด้านซ้ายมือสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และ พ.ศ. 2535
ดอยขุนกลาง
บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31 ภูมิประเทศโดยรอบจะเป็นทุ่งหญ้าคา เนื่องจากป่าถูกถางลง เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้วมา เป็นดอยที่ลดหลั่นประดุจดังคลื่น โดยเฉพาะในฤดูฝนจะเขียวขจีเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา
น้ำตกแม่กลาง
อยู่ทางทิศตะวันออกของอุทยานฯ จากถนนสายจอมทอง-อินทนนท์ ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 8 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกแม่กลาง
น้ำตกแม่ยะ
อยู่ทางทิศใต้ของเขตอุทยานฯ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากลำห้วยแม่ยะ มีความสูงถึง 260 เมตร จนกล่าวกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศ เหมือนกับเอาน้ำตกต่างๆมารวมกันไว้ ณ ที่นี้ ทางเข้าน้ำตกนี้ แยกจากถนนสายจอมทอง-ฮอด ไปทางขวามือซึ่งมีป้ายบอกไว้ที่ข้างทาง
น้ำตกสิริภูมิ
เดิมชื่อ น้ำตกเลาลี ตามชื่อของแม้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่อยู่ใกล้น้ำตกนี้ ต่อมา มรว.จักรทอง ทองใหญ่ เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขนานนามว่า "สิริภูมิ" เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ น้ำตกนี้อยู่ใกล้ หลักกิโลเมตรที่ 31 ถนนสายจอมทอง-อินทนนท์
น้ำตกวชิรธาร หรือน้ำตกเมืองโยง
เกิดจากลำห้วยแม่กลางอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 22 ถนนสายจอมทอง-อินทนนท์ มีน้ำไหลตกจากหน้าผาสูงถึง 70 เมตร
น้ำตกแม่ปาน
ตั้งอยู่เชิงดอยอินทนนท์ ห่างจากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มประมาณ 16 กิโลเมตร เดินทางจากแยก ขึ้นดอยอินทนนท์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1192 อินทนนท์-แม่แจ่ม ประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าไป ยังน้ำตกอีก 9 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินทางอีกประมาณ 10 นาที น้ำตกแม่ปานนับว่าเป็นน้ำตกที่ยาวที่สุด ของเชียงใหม่
น้ำตกทรายเหลือง
ตั้งอยู่บนเส้นทางเดียวกับน้ำตกแม่ปาน และอยู่ห่างจากถนนสายดอยอินทนนท์-แม่แจ่ม ประมาณ 2 กิโลเมตร
ถ้ำบริจินดา
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อย อยู่บนภูเขาทิศตะวันออกของอุทยานฯ
สิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยาน แห่งชาติดอยอินทนนท์ มีบ้านพักสำหรับบริการนักท่องเที่ยว จำนวน 5 หลัง พักได้หลังละ 15-20 คน ค่าธรรมเนียมที่พัก 800-1,000 บาทต่อคืน และอนุญาติให้นำเต็นท์ไปตั้งค่ายพักแรมได้ ติดต่อ สอบถามรายละเอียด ได้ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ถนนจอมทอง - อินทนนท์ กม. 31 อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160 หรือที่กรมป่าไม้ โทร. 579-7223,579-5734