เวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองหลวงที่ได้ถูกทดลองสร้างขึ้นมาในอาณาจักรล้านนาสมัยพญามังราย ช่วงปี พ.ศ. 1829 ปัจจุบันเป็นพื้นที่เขต อำเภอสารภี ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองเชียงใหม่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 5 กิโลเมตร
หลังจากที่พญามังรายได้ปกครองและพำนักอยู่ในนครหริภุญชัย (ลำพูน) อยู่ 2 ปี พระองค์ทรงศึกษาสิ่งหลายๆอย่าง และมีพระราชดำริที่จะลองสร้างเมืองขึ้น เมืองนั้นก็คือ เวียงกุมกาม แต่พระองค์ก็ทรงสร้างไม่สำเร็จ เพราะเวียงนั้นมีน้ำท่วมอยู่ทุกปี จนพญามังรายจึงทรงต้องไปปรึกษาพระสหาย คือพ่อขุนรามคำแหงแห่งสุโขทัย และพญางำเมืองแห่งอาณาจักรพะเยา หลังจากทรงปรึกษากันแล้วจึงทรงตัดสินใจไปหาที่สร้างเมืองใหม่ ในที่สุดจึงได้พื้นที่นครพิงค์เชียงใหม่เป็นเมืองใหม่ และ เป็นเมืองหลวงแห่งอาณาจักรล้านนาต่อมา จึงสรุปได้ว่าเวียงกุมกามนั้น เป็นเมืองที่ทดลองสร้าง
เวียงกุมกามล่มสลายลงเพราะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยช่วงเวลานี้อยู่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2101 - 2317 ซึ่งตรงกับสมัยพม่าปกครองล้านนา พม่าปกครองล้านนาเป็นเวลาสองร้อยกว่าปี แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่กล่าวถึงเวียงกุมกามทั้งๆที่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่นี้เป็นเรื่องร้ายแรงมากและสมควรที่จะบันทึกไว้ แต่ก็ไม่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ใดเลย ผลของการเกิดน้ำท่วมนี้ทำให้เวียงกุมกามถูกฝังจมลงอยู่ใต้ตะกอนดินจนยากที่จะฟื้นฟูกลับมา สภาพวัดต่างๆ และโบราณสถานที่สำคัญเหลือเพียงซากวิหารและเจดีย์ร้างที่จมอยู่ดินในระดับความลึกจากพื้นดินลงไปประมาณ 1.50 -2.00 เมตร โดยวัดที่จมดินลึกที่สุดคือวัดอีค่าง รองลงมาคือ วัดปู่เปี้ย และวัดกู่ป่าด้อม
(ข้อมูลอ้างอิงจากวิกีพีเดีย)
เรามาเริ่มเที่ยวเวียงกุมกามกันเลยดีกว่าครับ
การเที่ยวเวียงกุมกามนั้น สามารถทำได้ 2 วิธีคือ
1. ใช้บริการ รถม้า หรือ รถราง (เห็นเค้าเขียนแบบนี้แต่จริงๆ ไม่มีรางนะครับ) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายดังนี้ รถม้า 200 บาท ส่วนรถรางจะคิดตามจำนวนของผู้โดยสารครับ
1 – 10 คน คันละ 300 บาท
11 – 15 คน คันละ 350 บาท
16 – 20 คน คันละ 400 บาท
ซึ่งข้อดีของการเที่ยวด้วยวิธีนี้คือ คนขี่ม้า หรือ คนขับรถราง จะทำหน้าที่เป็นไกลด์ให้เราไปด้วยในตัว โดยจะเล่าข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ให้เราฟังไปด้วย แต่การเที่ยวด้วยรถม้าจะดีกว่าตรงที่มีความเป็นส่วนตัว ถ้าเราอยากอยู่ตรงไหนนานหน่อย ก็บอกคนขี่ม้าได้ และ ไม่ต้องมีคนอื่นมารอเรา ต่างจากรถรางที่ไปกันหลายๆ คน ถ้าจะอยู่ตรงจุดไหนนานๆ ก็จะรู้สึกเกรงใจ
2. ขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง ซึ่งวิธีนี้ก็ถือว่าไม่ลำบากอะไร ถึงแม้ว่าจุดท่องเที่ยวจะกระจัดกระจาย กันออกไป แต่เราสามารถดูแผนผัง และ ป้ายที่ติดอยู่ตามจุดต่างๆ ได้ตลอดทาง ไม่ถือว่าลำบากอะไร และ ข้อดีของการขับรถเที่ยวด้วยตัวเองก็ตรงที่เราจะไปตรงไหนก่อน ตรงไหนหลัง จะอยู่ตรงไหนนาน หรือจะข้ามจุดไหน ก็แล้วแต่เราเลยครับ
ลักษณะของรถรางพาเที่ยวครับ คนขับจะบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวให้ฟังไปด้วยเพลินๆ
แบบนี้ก็ดูคลาสสิคดีครับ เช่ารถม้าเที่ยว ถ้าไปกัน 2 คน ผมว่าใช้บริการรถม้าก็เป็นส่วนตัวดีครับ แถมอยากอยู่ตรงไหนนาน ตรงไหนแป๊บเดียว ก็แล้วแต่เราเลยครับ ไม่ต้องมีใครมารอเรา
ประตูสู่เวียงกุมกาม จุดแรกเลย คือ วัดเจดีย์เหลี่ยม (วัดกู่คำ) แต่เดิมวัดนี้ชื่อวัดกู่คำ กู่ หมายถึง พระเจดีย์ คำ หมายถึง ทองคำ พญามังรายโปรดให้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1831 โบราณวัตถุที่สำคัญของวัดคือ องค์พระเจดีย์ประธานรูปทรงมณฑปปลด 5 ชั้น วัดนี้มีความโดดเด่นคือ เป็นวัดที่กษัตริย์สร้าง และมีรูปแบบเจดีย์ที่แสดงถึงอิทธิพลรูปแบบของรัฐหริภุญไชย โดยที่พญามังรายโปรดให้เอามาก่อสร้างไว้ในเวียงกุมกามระยะแรกๆ
บรรยากาศเจดีย์เหลี่ยมริมแม่น้ำปิง ยามค่ำคืน
แผนผังแสดงตำแหน่งของวัดต่างๆ ในเวียงกุมกาม มีทั้งหมด 27 จุด ถ้าใครต้องการเที่ยวให้ครบทุกจุด ผมคิดว่าคงต้องเริ่มกันตั้งแต่เช้าเลยล่ะมั๊งครับ
การขับรถเที่ยวด้วยตัวเองไม่ได้ลำบากเลยครับ เพราะว่าตลอดเส้นทางจะมีป้ายบอกทางพร้อมระยะทางเยอะมาก อันนี้ต้องขอชมเลยครับ ทำได้ดีมาก
วัดพระธาตุขาว (วัดธาตุขาว) ที่เรียกกันว่าวัดธาตุขาวเนื่องมาจากแต่เดิมนั้นตัวเจดีย์ยังคงปรากฏผิวฉาบปูนสีขาวนั่นเอง โบราณสถานประกอบด้วยวิหาร เจดีย์ อุโบสถ และมณฑป โดยมีการก่อสร้างขึ้นมา 2 ระยะคือ ระยะแรกก่อสร้างเพียงเจดีย์ วิหาร อุโบสถ แต่ต่อมาเกิดการชำรุดจึงต่อเติมฐานเจดีย์ให้ใหญ่ขึ้น ระยะที่สองมีการก่อสร้างมณฑปสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป
พระพุทธรูปตรงบริเวณวัดพระธาตุขาว ในสมัยที่วัดแห่งนี้ถูกขุดพบใหม่ๆ พระพุทธรูปจะคว่ำหน้าอยู่ และไม่มีเศียร ซึ่งในภายหลังได้มีการซ่อมแซมและสร้างเศียรขึ้นมาใหม่ (อันนี้แอบทราบมานะครับ เพราะว่าไกลด์เล่าให้ฟัง)
สำหรับคนที่ขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ นะครับ เพราะว่า ในแต่ละจุดจะมีป้ายข้อมูลตั้งไว้ให้อ่านอย่างละเอียดครับ
วัดปู่เปี้ย ถือเป็นวัดที่มีความงดงามแห่งหนึ่งในเวียงกุมกาม รูปแบบผังการสร้างวัด และ รูปแบบเจดีย์ประธานมณฑปมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ โบราณสถานประกอบด้วยวิหารสร้างยกพื้นสูง เจดีย์ อุโบสถ ศาลผีเสื้อ และแท่นบูชา พร้อมทั้งมีลวดลายปูนปั้นประดับเจดีย์ที่สวยงามมาก
ปัจจุบันพื้นที่ในบริเวณนี้มีบ้านเรือนจำนวนมาก ถนนก็แคบ รถสวนกันค่อนข้างลำบาก
วัดกู่ป่าด้อม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นอกเวียงกุมกาม ชื่อของวัดนี้ได้ตั้งชื่อตามเจ้าของที่ดิน โบราณสถานของวัดมีขนาดใหญ่ประกอบด้วย วิหารฐานใหญ่ มีบันไดทางขึ้นวิหาร มีราวบันไดด้านปลายเป็นรูปตัวเหงา ส่วนเจดีย์เหลือเพียงฐานเท่านั้น มีกำแพงแก้วก่อล้อมรอบโบราณสถาน กำแพงแก้วด้านหน้าทางเข้าวิหารมีซุ้มโขง วัดแห่งนี้มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 21-22
วัดน้อย (วัดธาตุน้อย) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของวัดกานโถม ก่อนการขุดแต่งเป็นเนินดินสองแห่ง มีชาวบ้านเข้ามาปลูกบ้านอาศัยบนโบราณสถานแห่งนี้ และยังพบร่องรอยกสารขุดหาทรัพย์สินด้วย โบราณสถานประกอบด้วยวิหารและเจดีย์ วิหารตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีบันไดทางขึ้นด้านหน้าและด้านข้าง 1 แห่ง พื้นวิหารปูอิฐ ด้านหลังวิหารเป็นซุ้มประดิษฐานพระประธานปูนปั้น เจดีย์มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 13.35 × 13.35 เมตร สูง 1.64 เมตร ต่อขึ้นไปเป็นองค์เจดีย์ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 6.20 × 6.20 เมตร ลักษณะเจดีย์มีฐานใหญ่แต่องค์เจดีย์เล็ก
เวียงกุมกามถือว่าเป็นสถานที่ ที่มีประวัติความเป็นมาที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากของอาณาจักรล้านนา และ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ครับ
แผนที่ศูนย์ข้อมูลเวียงกุมกาม
พิกัด GPS 18.7444968,98.9942563
ปักหมุดไว้ให้ตรงจุดที่มีบริการรถม้า และ รถรางนะครับ