รีวิว โฮเทล ยาหยี เชียงใหม่ ที่พักชิคๆ บูติคโฮเทล ในย่านนิมมานเหมินทร์

<< Review Hotel Yayee Chiang Mai >>

โฮเทล ยาหยี เชียงใหม่ ที่พักมีสไตล์ ในโลเคชั่นที่สะดวกสบาย สำหรับใครที่ต้องการเที่ยวในย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ใช้ชีวิตแบบฮิปสเตอร์ในใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งบ้างก็รู้สึกว่าย่านนี้เป็นย่านของพวกที่ชอบใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์จิบกาแฟชิลล์ตามร้านเกร๋ๆ บ้างก็ว่าย่านนี้เป็นย่านที่วุ่นวาย มีผับมีบาร์มากมาย ผู้คนพลุกพล่าน ก็คงแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน

ส่วนตัวผมแล้ว ผมว่าย่านนี้เป็นย่านที่มีการผสมผสานกันได้อย่างลงตัวมากๆ เพราะว่าหากใครต้องการออกไปนั่งชิลล์ๆ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินทางไกล เพราะร้านกาแฟ คาเฟ่ เกร๋ๆ มีให้เลือกมากมาย หรือ หากใครจะไปเที่ยวบาร์ เที่ยวผับ หาความสำราญ ก็ถือเป็นแหล่งรวมของวัยรุ่นเชียงใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด


นอกจากนั้นที่พักในย่านนี้ก็มีให้เลือกมากมาย ซึ่ง โฮเทล ยาหยี ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ แห่งนึงในย่านนี้ เพราะด้วยที่ตั้งของตัวโรงแรม ที่ไม่ได้อยู่ในย่านที่พลุกพล่านเกินไป และไม่ได้ห่างไกลจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ในย่านนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีความเป็นส่วนตัวในขณะพักผ่อนที่โรงแรม แต่ก็ยังรู้สึกว่าหากจะออกไปเดินเที่ยวในย่านนี้ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกัน

ถ้างั้นเรามาชมบรรยากาศบางส่วนของ โฮเทล ยาหยี ซึ่งเป็นโรงแรมของพระเอกติสท์แตกอย่าง คุณอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม กันครับ... (เชื่อว่าสาวๆ หลายคนแอบกรี๊ดทันที ที่รู้ว่าเจ้าของโรงแรมนี้คือใคร เพราะคนใกล้ตัวผมก็ตื่นเต้นออกหน้าออกตา ทันทีที่รู้ว่าจะไปพักที่นี่)

เดินเข้ามาปุ๊บ ก็จะเจอกับส่วนของเคาน์เตอร์ต้อนรับ และ เป็นส่วนของร้านอาหารของโรงแรมด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้บริเวณล็อบบี้จะอยู่ที่ชั้น 2 แต่ปัจจุบันได้ลงมาต้อนรับตรงประตูทางเข้าเลย ผมว่าก็ดีนะครับ เพราะเดินเข้ามา ก็อยากเจอพนักงานยืนต้อนรับเราเลย

หันไปทางซ้าย ผนังทั้งแผง ถูกตกแต่งด้วยภาพวาดแผนที่ของเมืองเชียงใหม่ ดูแล้วสวยแปลกตา และ เป็นประโยชน์มากๆ เลยครับ

เดินเข้าไปดูอีกนิดนึง

หันไปทางขวา ก็เป็นส่วนของที่นั่งทานอาหารเหมือนกัน แต่ฝั่งนี้จะเน้นเป็นกระจกโปร่งๆ เพื่อให้มองเห็นบรรยากาศด้านนอกซะส่วนใหญ่

หลังจากผ่านขั้นตอนเช็คอินน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นไปชมห้องนอนกันต่อเลยครับ

อ้อๆๆๆ ลืมชมพนักงานที่นี่น่ารักมากๆ ให้การช่วยเหลือดีจริงๆ แต่พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงนะครับ พวกเราเดินเข้ามาโดยไม่ได้มีกระเป๋าเข้ามาด้วยในตอนแรก ยังอุตส่าห์เดินตามไปที่รถ เพื่อไปช่วยขนกระเป๋า ทั้งๆ ที่บอกว่าไม่เป็นไร.. ขอชื่นชมจริงๆ การบริการยอดเยี่ยมเลย

ห้องพัก

สำหรับห้องพักที่โฮเทล ยาหยี จะมีทั้งหมด 14 ห้อง แบ่งออกเป็น 2 แบบ หลักๆ คือ

1. ห้องเล็ก ราคา 2,200
2. ห้องใหญ่ ราคา 2,600

ใครอยากได้ห้องใหญ่หน่อย ก็จองห้องใหญ่ ใครอยากได้ห้องเล็กๆ ก็จองห้องเล็ก ไม่ต้องเรียกชื่ออื่นให้วุ่นวาย

สำหรับราคา อาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่คุณเข้าพักนะครับ

เก็บภาพบันไดวนมาให้ชมสวยๆ เฉยๆ นะครับ เราไม่ได้เดินขึ้นบันไดนี้ ถ้าเดินขึ้นบันไดนี้คงไม่ไหว เพราะว่าพักอยู่ตั้งชั้น 4

ทีโรงแรมเค้ามีลิฟท์ให้บริการครับ

"เนื่องจากวันที่เราเข้าพัก ห้องพักส่วนใหญ่เต็ม ทำให้ไม่ได้เข้าไปชมบรรยากาศของห้องพักแบบห้องเล็กนะครับ"

ห้องใหญ่

พวกเราเข้าพักเป็นห้องแบบ ห้องใหญ่ ซึ่งภายในห้องดูค่อนข้าง minimal นะครับ ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ต้องเยอะ แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียงพอ ต่อความต้องการ

ความรู้สึกแรกที่เข้ามาในห้อง ผมรู้สึกเหมือนพักอยู่ Bed and Breakfast มากกว่าโรงแรมนะครับ เค้าทำให้รู้สึกแบบว่ากันเอง ไม่ต้องเยอะ พักผ่อนให้สบาย แล้วเดี๋ยวเช้ามาทานอาหารง่ายๆ แต่อร่อยด้วยกัน อะไรประมาณนั้นน่ะครับ

ภายในห้องพักไม่มีโทรศัพท์นะครับ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็คงต้องลงไปข้างล่างเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ หรือ จะโทรจากมือถือตัวเองก็ได้

บอกแล้วไงครับว่าที่นี่เค้าสร้างความรู้สึกให้เราไม่ต้องอึดอัด และ รู้สึกเป็นกันเองมากๆ ง่ายๆ สบายๆ

เตียงนอนไม่ได้ใช้เป็นเตียงสูง แต่ด้านล่างจะปูด้วยที่นอนยางพาราอย่างหนา (เดาว่าอย่างนั้นนะครับ) แต่ตัวฟูกหนานอนสบายดีครับ

ภาพถ่ายบนหัวเตียงเห็นว่าเป็นภาพถ่ายฝีมือคุณอนันดาเอง แต่ละห้องมีภาพต่างกันไป

ตอนที่เข้ามาเช็คอินน์ เจ้าหน้าที่ไม่ได้มี Welcome Drink ให้ แต่แจ้งว่า เราสามารถดื่มเครื่องดื่มในตู้เย็นนี้ได้ทั้งหมด แทน Welcome Drink โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ... อ้าวๆๆๆ แบบนี้เสร็จเราครับ ถูกใจมากๆๆ

เข้าไปดูในห้องน้ำกันบ้าง

ภายในห้องน้ำ จะออกแบบให้รู้สึกโปร่งๆ มีแสงธรรมชาติเข้ามา ทำให้รู้สึกว่าห้องน้ำสว่างในช่วงกลางวันโดยที่ไม่ต้องเปิดไฟเลย แต่ที่สะดุดตา ก็ตรงชั้นวางหนังสือ เนี่ยแหละครับ ในห้องน้ำมีนิตยสารวางไว้ให้อ่านด้วย

ประตูนี่สุดยอดเลย ล็อกกันถึงสามชั้น รับรองได้ถึงความปลอดภัย ไม่มีใครแอบเข้ามาได้แน่นอน แต่ที่นี่เค้าไม่ได้ใช้เป็นคีย์การ์ดนะครับ เค้าใช้เป็นกุญแจไขธรรมดาเนี่ยแหละครับ

ห้องเล็ก

สำหรับห้องเล็ก ไม่ได้เข้าไปดูด้านใน เลยนำภาพจากเว็บโรงแรมมาให้ชมแทน ซึ่งความแตกต่างก็คือ ขนาดของห้องพักที่เล็กกว่าหน่อยนึง และ จะไม่มีพื้นที่สำหรับวางโซฟานอน  ส่วนรายละเอียดการตกแต่งอื่นๆ ก็แตกต่างกันไปในแต่ละห้องครับ

ในช่วงค่ำจากห้องนอนมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพระธาตุดอยสุเทพ เปิดไฟสว่างสวยงามมากๆ เลยครับ

Good Night ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าตื่นไปทานอาหารเช้ากัน

อาหารเช้า และ ห้องอาหารของโรงแรม

สำหรับเมนูอาหารเช้าที่นี่จะทานที่ชั้นล่าง ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อว่า Hungry Heart Cafe โดยที่รายการอาหารเช้าจะจัดให้เป็นเซ็ตนะครับ มีให้เลือกทั้งหมด 3 เซ็ต คือ ไข่คน (Scrambled egg) , ชุดอาหารเช้าคุณอนันดา (ไข่กะทะ) และ ข้าวต้มคนเมือง

พวกเราเลือกทาน ชุดอาหารเช้าคุณอนันดา (ไข่กะทะ) และ ข้าวต้มคนเมือง

ไข่กะทะ หรือ เซตอาหารเช้าคุณอนันดา เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของคุณอนันดา ซึ่งชอบทานตอนเช้า

ในส่วนของไข่กะทะก็ทานปกติครับ แต่ตรงส่วนของข้าวเหนียวกับ น้ำพริกเนี่ยครับ เค้ามีวิธีทานนะครับ

ข้าวเหนียวธัญพืช กับ น้ำพริกตาแดง

วิธีการทานให้เอาข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกตาแดง แล้วราดด้วยไข่แดงเยิ้มๆ ให้พอดีคำ

แล้วเอาเข้าปาก อร่อย แปลก ดีเหมือนกันครับ

อีกเมนูก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกันคือ ชุดข้าวต้มคนเมือง

ข้าวต้มจัดมาเป็นชุด มีข้าวต้มขาวผสมข้าวต้มธัญพืช ซึ่งกับข้าวจะใส่ปิ่นโตไว้ มีทั้งหมด 3 อย่าง และปิดท้ายด้วยผลไม้ 

กับข้าวภายในปิ่นโต มีตามนี้เลยครับ ส่วนตัวคิดว่ามีเมนูไข่เยอะไปหน่อย น่าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน เช่น ผัดผักบุ้ง ...  อิๆ แต่ก็อร่อยทุกอย่าง ทานหมดไม่เหลือครับ

ในช่วงเย็น ถ้าขี้เกียจออกไปข้างนอก ก็สามารถทานอาหารอร่อยๆ ที่โรงแรมได้เลยครับ ผมว่าอาหารเค้าอร่อยดีนะครับ ราคาก็สูงนิดนึง แต่ถ้าไม่อยากไปไหนจริงๆ ก็ถือว่าสะดวกดีครับ ผมเห็นมีลูกค้าหลายคนสั่งขึ้นไปทานบนห้อง ระหว่างรออาหาร เห็นพนักงานยกอาหารใส่ถาดขึ้นลิฟท์ ไปเสิร์ฟที่ห้องหลายเที่ยวเลย

ระหว่างรออาหาร เดินเล่นชมบรรยากาศร้านอาหารอีกซักรอบ

อาหารมาแล้วครับ ที่นี่เค้าได้เชฟจากร้าน spaghetti factory มาร่วมงาน เพราะฉะนั้นเมนูเด็ดๆ ก็คงหนีไม่พ้น เมนู สปาเก็ตตี้ อย่างแน่นอน

สปาเก็ตตี้คาโบนาล่า โปะด้วยเบคอนชิ้นใหญ่

ข้าวกระเพรายาหยี เป็นอีกเมนูแนะนำของที่นี่ ไก่ทอดชิ้นใหญ่กรอบนอกนุ่มในโรยหน้าด้วยกระเพรากรอบ  เสิร์ฟพร้อมซอสกะเพราเห็ด และ ไข่(นกกะทา)ดาวมาด้วย  ทานคู่กับซุปไข่หยด

เมี่ยงพิชัย เป็นเมี่ยงปลาทู ทานคู่กับผักสด แคปหมู และ เส้นหมี่ขาว

ในช่วงเย็นๆ หากใครอยากจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวสวยๆ ของตัวเมืองเชียงใหม่ รวมถึงวิวของดอยสุเทพ ก็ขึ้นมานั่งที่ The Rooftop Bar กันต่อได้เลยครับ

ช่วงค่ำถ้าฟ้าเปิดหน่อย ก็จะได้เห็นพระธาตุดอยสุเทพเปิดแสงสวยงามเลยครับ

ที่จอดรถของที่พักในย่านนิมมานฯ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะครับ เพราะว่าที่พักหลายๆ แห่งไม่มีที่จอดรถให้ เราต้องไปหาที่จอดเอาตามซอกตามซอย ซึ่งทำให้รู้สึกเป็นห่วง แต่ที่ โฮเทล ยาหยี มีที่จอดรถให้อยู่ข้างๆ ที่พัก ซึ่งเป็นที่จอดรถรวมน่ะครับ เค้าเช่าเอาไว้ให้ลูกค้า และมีรปภ เฝ้าให้ตลอดทั้งคืน สบายใจได้เลยครับว่ารถเราปลอดภัยแน่นอน

ความคิดเห็นเกี่ยวกับโฮเทล ยาหยี เชียงใหม่

1. ที่ตั้งดีเยี่ยมครับ สะดวกสบายในการออกไปเที่ยวในย่านถนนนิมมานฯ
2. การตกแต่งสวย ดูมีสไตล์
3. ภายในห้องพักสะอาด และ มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่จำเป็น และที่ถูกใจก็เป็นสัญญาน Wifi ที่แรง ช่วยให้อัพโหลดงานได้ปรู๊ดๆ เลย
4. เรื่องที่จอดรถก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พวกเรากังวลกันตั้งแต่แรก ที่จะมาพักในย่านนิมมานฯ แต่ที่โฮเทลยาหยี มีที่จอดรถให้ข้างๆ ก็ถือว่าสะดวก และ รู้สึกปลอดภัย เพราะว่ามี รปภ เฝ้าให้ตลอด
5. พนักงานบริการดี เป็นกันเองมากๆ ยิ้มแย้มทักทายตลอด
6. อาหารเช้าอร่อยดีครับ ไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์ แต่ทานแล้วก็รู้สึกว่าอิ่มกำลังดี
7. ชั้นบน The Rooftop bar บรรยากาศดีมากๆ เหมาะแก่การนั่งจิบเครื่องดื่มชิลล์ๆ
8. ข้อติ ก็มีบ้างเช่นลิฟท์ ที่มีเซ็นเซอร์น้อยไปหน่อย และอยู่สูง ถ้าเป็นเด็ก ตัวเล็กๆ ความสูงต่ำกว่าครึ่งนึงของลิฟท์ ถ้าเดินเข้าลิฟท์ ต้องระวังหน่อย เพราะว่าเซ็นเซอร์ลิฟท์ จะเลยศรีษะเด็กไปแล้ว แต่มีผู้ใหญ่ช่วยดูแล ก็ไม่มีปัญหาครับ

เช็คราคา และ จองห้องพัก

ห้องพักราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 2,200 - 2,800 บาท

ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงวันที่เข้าพัก

เช็คห้องว่างและราคาที่นี่

Hotel Yayee
17/5 ถนนสายน้ำผึ้ง ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
โทร. 099 269 5885
http://www.hotelyayee.com

เวลาเช็คอินน์ 14.00 น.
เวลาเช็คเอ้าท์ 12.00 น.

Room Service
11.00 - 21.00 น.

แผนที่โฮเทล ยาหยี เชียงใหม่

พิกัด GPS 18.794535, 98.968326