นายพรชัย จิตรนวเสถียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากปัญหามลพิษอากาศหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามเป็นไปตามที่คาดหมายไว้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงนี้ และเป็นปกติที่จะมีนักท่องเที่ยวลดน้อยลงจนกว่าจะถึงช่วงสงกรานต์ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ซื้อทัวร์ผ่านบริษัทนำเที่ยวถือว่าไม่กระทบมากเพราะเป็นกลุ่มที่ทราบเกี่ยวกับสภาพปัญหา และมีการเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงนี้น้อยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองยอมรับว่ากระทบพอสมควร เนื่องจากกลุ่มนี้ที่ทราบข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้แจ้งขอเลื่อนการเดินทางท่องเที่ยวและเข้าพักโรงแรมออกไปอีกระยะหนึ่งเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว โดยพบว่าช่วงเดือนมีนาคมมีการขอเลื่อนเข้าพักโรงแรมคิดเป็นสัดส่วนถึง 50% ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งมีอีกเล็กน้อยที่ขอยกเลิกการเดินทาง ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าส่งผลให้รายได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่เดือน มี.ค. ลดลงไปประมาณ 2,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา
“โดยส่วนตัวยอมรับว่าเป็นห่วงผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่มากกว่านักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอยู่ตลอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่นักท่องเที่ยวอาจจะพักอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ 3-4 วันเท่านั้น ผมสนับสนุนแนวคิดที่จะให้มีการประกาศให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาอย่างละเอียด เพื่อจะได้มีการเตรียมตัวให้พร้อม และสามารถป้องกันตัวเองได้หากตัดสินใจที่จะเข้ามาท่องเที่ยว รวมทั้งยังจะส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักเกี่ยวกับการป้องกันตัวและมีส่วนร่วมในการป้องกันปัญหาอีกด้วย ผมไม่อยากให้เอาประเด็นการท่องเที่ยวมาเป็นกังวลมาก จนไม่กล้าที่จะแจ้งเตือนและให้ข้อมูลสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
ข่าวแจ้งว่า สำหรับปัญหามลพิษหมอกควันไฟป่าของ จ.เชียงใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่า (11 มี.ค.) ยังคงอยู่ในภาวะรุนแรง โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศยังคงสูงเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเวลา 09.00 น. ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 220 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 144 ส่วนที่สถานีตรวจวัดอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 214 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 141 เกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 100 ตามลำดับ